วิธีรักษาสิวเสี้ยน : รักษาสิวเสี้ยนที่จมูก กําจัดสิวเสี้ยนถาวร วิธีรักษาสิวเสี้ยนที่จมูกและคาง วิธีแก้สิวเสี้ยน รักษาสิวเสียนเยอะตรงจมูก

วิธีรักษาสิวเสี้ยนสำหรับผิวคนไทย

สิวเสี้ยนหัวดำ (blackheads) มีสาเหตุมาจากความผิดปกติของรูขุมขน โดยการที่ต่อมรูขุมขนผลิตขนอ่อนเล็ก ๆ มากกว่าสิบเส้น ร่วมกับเซลล์ที่ตายแล้วหรือเซลล์ชั้นขี้ไคล และถูกหุ้มด้วยน้ำมันที่ผลิตจากต่อมไขมัน ก่อให้เกิดการอุดตัน ส่งผลให้ขนอ่อนเส้นเล็ก ๆ ไม่สามารถหลุดได้ตามปกติ

สิวเสี้ยนหัวดำสามารถสังเกตได้ง่ายตามบริเวณใบหน้า ส่วนมากจะพบตรงบริเวณจมูก คาง หน้าผาก และหน้าแก้มทั้งสองข้าง โดยมีลักษณะเป็นจุดดำเล็ก ๆ ยื่นออกมาคล้ายหนาม เมื่อสัมผัสจะพบว่าสะดุด  ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาที่ทำให้สิวเสี้ยนหายอย่างถาวร แต่มีวิธีรักษาสิวเสี้ยนที่ทำให้สิวเสี้ยนเกิดขึ้นช้าและทำให้รูขุมขนบริเวณนั้นเล็กลงได้

รักษาสิวเสี้ยน

ปัจจัยการเกิดสิวเสี้ยน

ฮอร์โมน : โดยเฉพาะวัยรุ่น จะผลิตฮอร์โมนแอนโดรเจนเพิ่มขึ้น ทำให้ต่อมไขมันขยายและกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมันมากกว่าปกติ จึงเกิดการอุดตันและเป็นสิวได้

ความเครียด : ความเครียดสะสมจะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งส่งผลให้เกิดการผลิตน้ำมันส่วนเกิน นำไปสู่การเกิดการอุดตันที่ผิวและทำให้เกิดสิวได้ง่าย

การแต่งหน้า : เครื่องสำอางบางประเภทที่มีส่วนผสมของน้ำมันจะก่อให้เกิดการอุดตันในรูขุมขนได้

การรับประทานอาหาร : อาหารที่มีปริมาณไขมันและน้ำตาลสูง เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดการอุดตันและเกิดสิว

การสัมผัสบริเวณใบหน้า : เช่น การสครับ การนวดผิวหน้า การลอกผิวด้วยสารเคมี เป็นการทำร้ายผิว ทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย และเสี่ยงต่อการเกิดขนคุดในรูขุมขน

ยา : ยาบางชนิด เช่น ซัลเฟอร์ ลิเทียม เทสโทสเตอโรน คอร์ติโคสเตียรอยด์ อาจจะทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันเกินความจำเป็นจนอุดตันรูขุมขนและเกิดเป็นสิวเสี้ยนได้

วิธีการรักษาสิวเสี้ยน

  • การใช้ยากลุ่มเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์และยารักษาสิวที่มีส่วนประกอบเป็นกรด เช่น กรดซาลิไซลิค กรดไกลโคลิค กรดอะซีลาอิก ข้อดีคือ ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตัน เหมาะกับคนที่ผิวมัน ข้อเสียคือ เป็นยาที่มีฤทธิ์ทำให้ผิวแห้ง แสบ หากใช้นาน ๆ อาจเกิดการระคายเคืองได้ ควรใช้ตามคำแนะนำของแพทย์
  • การใช้สารประกอบกลุ่มเรตินอยด์ เช่น กรดวิตามินเอ ข้อดีคือ ช่วยละลายการอุดตันของสิวเสี้ยน หาซื้อได้ง่าย ข้อเสียคือ ทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย และทำให้ผิวไวต่อแสงแดด
  • การใช้สารเคมี เช่น AHA BHA ข้อดีคือ ทำให้หัวสิวแห้ง ช่วยลอกหลุดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป ลดโอกาสการเกิดอุดตัน ข้อเสียคือ หากใช้ที่เปอร์เซ็นต์ความเข้มข้นสูง อาจก่อให้เกิดอาการผื่นแพ้และทำให้เกิดสิวได้
  • การใช้อุปกรณ์กดสิว ข้อดีคือ สามารถเห็นผลได้ทันที ข้อเสียคือ ต้องใช้ความระมัดระวังและต้องมีความชำนาญในการกด เพราะอาจจะทำให้สิวอุดตันค้างในรูขุมขน เกิดการอักเสบและติดเชื้อได้
  • การใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยน หรือการใช้กาวที่เป็นสารไซยาโนอะคริเลต ข้อดีคือ ราคาไม่แพง หาง่าย ได้รับความนิยม แต่มีข้อเสียคือ ไม่สามารถลอกสิวเสี้ยนออกได้หมด และสารเคมีที่ใช้อาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้
  • การใช้เครื่อง IPL (Intensive Pule Light) หรือแสงความเข้มข้นสูงในการช่วยกำจัดสิวเสี้ยน ข้อดีคือ ช่วยลดการเกิดขนใหม่ ผลข้างเคียงน้อย ข้อเสียคือ ต้องทำหลายครั้งจึงจะเห็นผล และไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวสีเข้ม เนื่องจากทำให้เกิดการระคายเคืองและไหม้ผิวได้
  • การใช้เลเซอร์ ข้อดีคือช่วยกำจัดสิวเสี้ยนได้เกือบหมด ข้อเสียคือ มีราคาสูง และไม่ได้ช่วยกระชับรูขุมขน หลังทำอาจมีรอยแดงบริเวณรูขุมขนระยะหนึ่ง
  • การกรอผิวเครื่องมือสุญญากาศคริสตัล หรือการทำMicrodermabrasion ข้อดีคือ เป็นการขัดผิว ช่วยขจัดสิ่งอุดตันที่อยู่บนผิวหน้า ข้อเสียคือ ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางหรือผิวแพ้ง่าย เพราะอาจก่อให้เกิดการระคายเคือง และควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญ

คำแนะนำสำหรับการรักษาสิวเสี้ยนที่เหมาะสม คือ ล้างหน้าให้สะอาด หลีกเลี่ยงสกินแคร์และเครื่องสำอางที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง รับประทานไขมันและน้ำตาลให้น้อยลง ผลัดเซลล์ผิวโดยการสครับเพื่อกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ประมาณสัปดาห์ละครั้ง หรือ 2 สัปดาห์ครั้ง ร่วมกับการทำทรีทเมนท์ที่มีส่วนช่วยในการกระชับรูขุมขน เพื่อลดโอกาสการเกิดใหม่ของสิวเสี้ยน


รักษาสิวเสี้ยนที่จมูก แบบถาวร
— กําจัดสิวเสื้ยนถาวร 

กําจัดสิวเสื้ยนถาวร 

การรักษาสิวเสี้ยนที่ Puttharaksa Aesthetic เป็นการรักษาสิวเสี้ยนที่เป็นอยู่ควบคู่ไปกับการป้องกันการกลับมาใหม่ของสิวเสี้ยน โดยใช้การมาสก์เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ร่วมกับเครื่องมือในการกำจัดสิวเสี้ยนและกระชับรูขุมขน

— อ้างอิงจาก รักษาสิวเสี้ยน Puttharaksa Aesthetic